ทั้ง ExpressVPN และ NordVPN เป็นผู้ให้บริการ VPN ชั้นนำ แต่คุณอาจสงสัยว่าแบบไหนดีกว่าสำหรับผู้บริโภคในประเทศไทยใช่หรือไม่? ในการรีวิวนี้ เราจะตรวจสอบคุณลักษณะของแต่ละบริการชั้นนำเหล่านี้
ด้วยการใช้การวิเคราะห์คุณลักษณะต่อคุณลักษณะอย่างพิถีพิถัน เราสามารถเปรียบเทียบบริการทั้งสองนี้ได้อย่างแม่นยำ นี่คือส่วนที่เราพบจากการเปรียบเทียบ NordVPN กับ ExpressVPN:
หากคุณตัดสินใจเลือกไม่ถูกระหว่าง ExpressVPN และ NordVPN เราขอแนะนำ NordVPN ซึ่งเป็นตัวเลือกที่มีราคาสุดคุ้มด้วยส่วนลดปัจจุบัน โดดเด่นจากการเป็นหนึ่งในผู้ให้บริการที่มีความเร็วสูงสุดด้านการบริการใด ๆ จากการทดสอบความเร็วของเรา และยังยอดเยี่ยมสำหรับการสตรีมเนื้อหา TV ไทยในช่วงวันหยุด นอกจากนี้ NordVPN ยังเสนอคุณสมบัติด้านความปลอดภัยระดับสูงสุด ตลอดจนนโยบายการไม่บันทึกข้อมูลการใช้งาน
ซึ่งหมายความว่า ExpressVPN ยังคงเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมในปี 2021 แม้จะมีราคาสูงกว่าเล็กน้อย แต่ยังมีการเสนอส่วนลดครั้งใหญ่เมื่อมีโปรโมชัน ใช้งานได้ดีกับบริการต่าง ๆ เช่น Netflix US และ Hulu รวมถึงบริการของไทย เช่น Netflix Thailand, ช่อง 7 และอสมท
สรุป: ExpressVPN กับ NordVPN
การชำระเงินและส่วนลด ExpressVPN กับ NordVPN
ExpressVPN
- เร็วเพียงพอสำหรับการสตรีมโดยไม่มีการหยุดชะงัก
- ปลดบล็อกบริการสตรีมที่ถูกปิดกั้นระดับภูมิภาคได้จำนวนมาก
- เฟิร์มแวร์เราเตอร์แบบกำหนดเอง
- การแยกอุโมงค์ (Split tunneling)
- เซิร์ฟเวอร์ในประเทศไทยและ 94 ประเทศ
- เว็บไซต์: expressvpn.com
NordVPN
- เร็วที่สุดในกลุ่มผู้ให้บริการ
- ตั้งอยู่ใน PYIO6IJGYanama
- ยอดเยี่ยมในด้านการปลดบล็อกบริการที่มีการปิดกั้นเชิงภูมิศาสตร์จากต่างประเทศ
- การบล็อกโฆษณา การสแกนมัลแวร์ และการปกป้อง wi-fi อัตโนมัติ
- เซิร์ฟเวอร์ในประเทศไทยและ 59 ประเทศ
- เว็บไซต์: nordvpn.com
ทั้งสองบริษัทเสนอการรับประกันการคืนเงินภายใน 30 วัน เราได้ทดสอบสิ่งเหล่านี้แล้วและสามารถพิสูจน์ได้ว่าผู้ให้บริการทั้งสองปฏิบัติตามคำมั่นสัญญานี้โดยไม่ต้องขอให้คุณให้เหตุผลหรือพิสูจน์ถึงเหตุผลที่การบริการไม่เหมาะกับคุณ
ExpressVPN มอบการบริการฟรีสามเดือนให้กับคุณเป็นระยะเวลาหนึ่งปี เพื่อเป็นข้อเสนอที่คุ้มค่ากว่าหากคุณกำลังมองหาแผนการใช้งานแบบรายปี NordVPN เสนอส่วนลดครั้งใหญ่ในระยะเวลาที่นานกว่า ดังนั้นคุณสามารถหาซื้อได้ในราคา $3.71 (GBP £2.76) ต่อเดือน หากคุณยินดีจ่ายล่วงหน้าสำหรับบริการสองปี ข้อเสนอแบบสองปีของ NordVPN ยังรวมถึงการใช้งานสามเดือนเพิ่มฟรี ๆ อีกด้วย
คุณสมบัติ
ExpressVPN ให้บริการในภาษาไทยในแอปของ Windows, iOS, Android และ macOS อย่างไรก็ตาม คุณจะต้องเปลี่ยนภาษาจากการตั้งค่าอุปกรณ์ของคุณบนอุปกรณ์ Android ซึ่งควรทำให้แอปได้รับการติดตั้งเป็นภาษาไทยเมื่อคุณดาวน์โหลด สำหรับ NordVPN ยังไม่สามารถใช้บริการเป็นภาษาไทยในได้ขณะนี้
ExpressVPN ชนะ NordVPN ในประโยชน์ด้านเราเตอร์ เนื่องจากมีเฟิร์มแวร์แบบกำหนดเองที่ใช้งานง่ายซึ่งทำงานร่วมกับเราเตอร์บางรุ่น นั่นหมายความว่า สามารถติดตั้ง NordVPN ด้วยตนเองบนเราเตอร์ที่หลากหลายได้เช่นกัน พร้อมบริการไลบรารีบทช่วยสอนที่ครอบคลุม ซึ่งอธิบายวิธีติดตั้ง VPN บนเราเตอร์ประเภทต่าง ๆ
การอนุญาตการเชื่อมต่อพร้อมกันของ NordVPN ยังมากกว่าของ ExpressVPN เล็กน้อย (หกต่อห้า) ในทั้งสองกรณี หากคุณติดตั้ง VPN บนเราเตอร์ นั่นจะถือเป็นเพียงหนึ่งการเชื่อมต่อจากการอนุญาตของคุณ
NordVPN มีตัวบล็อกโฆษณาและระบบป้องกันมัลแวร์ที่เรียกว่า CyberSec ซึ่งสามารถเปิดใช้งานได้ภายในแอป
การเปรียบเทียบการสตรีมและ Netflix
เมื่อพูดถึงการปลดบล็อกเว็บไซต์สำหรับการสตรีมที่มีการปิดกั้นเชิงภูมิศาสตร์ แน่นอนว่าทั้ง ExpressVPN และ NordVPN ต่างก็มีความท้าทาย แท้จริงแล้ว มีแพลตฟอร์มการสตรีมที่คุณไม่สามารถเข้าถึงได้จากต่างประเทศด้วยบริการเหล่านี้เพียงไม่กี่ประเภท ทั้งคู่ต่างมีเซิร์ฟเวอร์ไทยที่สามารถเข้าถึงบริการ TV ไทยจากต่างประเทศ ซึ่งรวมถึงเซิร์ฟเวอร์สำหรับแพลตฟอร์มการสตรีม เช่น ช่อง 3, ไทย พีบีเอส, ช่อง 7 ช่องวัน 31, ไทยรัฐทีวี และอสมท
ผู้ให้บริการทั้งสองนี้ทำงานได้เป็นอย่างดีกับ Netflix และในกรณีของ NordVPN ทุกเซิร์ฟเวอร์ที่เราทดสอบสามารถใช้งานได้ อย่างไรก็ตาม หากไม่สามารถปลดบล็อกไลบรารีที่สอดคล้องกับตำแหน่งเซิร์ฟเวอร์ของคุณได้ NordVPN จะเปลี่ยนเส้นทางคุณไปยังไลบรารี Netflix ของสหรัฐฯ โดยอัตโนมัติ
หากคุณมีกล่องสตรีม (Kodi box) คุณสามารถใช้ VPN ใดเหล่านี้ก็ได้เพื่อหลีกเลี่ยงการปิดกั้นระดับภูมิภาคในบริการ TV ทั้ง ExpressVPN และ NordVPN ไม่มีแอปที่สามารถติดตั้งได้บนกล่องสตรีม (Kodi box) อย่างไรก็ตาม ทั้งคู่ต่างมีคู่มือการติดตั้งสำหรับการแชร์การเชื่อมต่อ VPN จากคอมพิวเตอร์หรือเราเตอร์ VPN นอกจากนี้ ตัวเลือกโปรโตคอล VPN ที่หลากหลายสำหรับผู้ให้บริการแต่ละราย (ดูด้านล่าง) หมายความว่าคุณจะได้รับตัวเลือกมากมายในกรณีที่กล่องสตรีม (Kodi box) ของคุณไม่รองรับ OpenVPN
หากคุณใช้ Kodi บนคอมพิวเตอร์ คุณสามารถควบคุมตำแหน่งทางภูมิศาสตร์ได้โดยใช้แอป ExpressVPN หรือ NordVPN ที่ติดตั้งบนอุปกรณ์ของคุณ
ประเทศจีน
ทั้ง ExpressVPN และ NordVPN ทำงานได้เป็นอย่างดีในประเทศจีน เว็บไซต์หลักของ ExpressVPN ถูกปิดกั้นโดยรัฐบาลจีน แต่บริษัททำการจัดหาที่อยู่สำรองสำหรับผู้ใช้ในประเทศจีน
ExpressVPN ตระหนักดีถึงความท้าทายในการให้บริการในประเทศจีน แม้ว่าบริการจะทำงานในสาธารณรัฐประชาชนได้ แต่บางครั้งก็มีการหยุดให้บริการ อย่างไรก็ตาม บริการทั้งสองเหล่านี้มีประวัติที่น่าเชื่อถือเมื่อพูดถึงการหลีกเลี่ยงการปิดกั้นเมื่อเร็ว ๆ นี้จากรัฐบาลจีนเมื่อเร็ว ๆ นี้
การติดตั้งและอินเตอร์เฟซ
แอป ExpressVPN มีขนาดเล็กและมีสัดส่วนที่เหมาะกับมือถือ แม้เมื่อใช้บนคอมพิวเตอร์หรือ Mac ทุกสิ่งได้รับการจัดการอย่างเป็นระเบียบ ด้วยการตั้งค่าและเซิร์ฟเวอร์ที่ต่างก็มีหน้าจอของตนเอง เราชอบที่เซิร์ฟเวอร์ที่คุณใช้งานล่าสุดสามารถเข้าถึงไจากหน้าหลักได้อย่างง่ายดายด้วยเช่นกัน เนื่องจากวิธีนี้ช่วยลดความยุ่งยากในการพยายามจดจำ เช่น เซิร์ฟเวอร์ใดที่สามารถปลดบล็อกไลบรารี Netflix บางแห่งได้
หน้าจอหลักของ NordVPN แสดงแผนที่โลกพร้อมเครื่องหมายในแต่ละประเทศที่บริษัทดำเนินการด้านเซิร์ฟเวอร์ ยังมีมุมมองแบบรายการทางด้านซ้าย (หรือที่ส่วนล่างของหน้าจอบนอุปกรณ์มือถือ) รายชื่อเซิร์ฟเวอร์เป็นการแยกเซิร์ฟเวอร์ตามวัตถุประสงค์ทั่วไปออกจากเซิร์ฟเวอร์ที่ออกแบบมาเพื่อรับส่งข้อมูลแบบ P2P หรือการเชื่อมต่อแบบ Tor ผ่าน VPN ดังนั้นการค้นหาสิ่งที่คุณต้องการจึงเป็นเรื่องง่ายเสมอ
เซิร์ฟเวอร์และประสิทธิภาพการทำงาน
แม้ว่า ExpressVPN จะมีที่ตั้งเซิร์ฟเวอร์ในหลายประเทศ แต่ NordVPN มีตัวเลือกมากกว่าในเครือข่ายเซิร์ฟเวอร์โดยรวม
NordVPN มีคุณสมบัติเซิร์ฟเวอร์ที่ ExpressVPN ไม่มีให้บริการ ซึ่งก็คือการเชื่อมโยงเซิร์ฟเวอร์ VPN (VPN chaining) (เรียกอีกอย่างว่า multi-hop VPN หรือ double-hop VPN) ซึ่งกำหนดเส้นทางการรับส่งข้อมูลของคุณผ่านสองเซิร์ฟเวอร์โดยการเข้ารหัสกลุ่มข้อมูลสองครั้ง สิ่งนี้เป็นคุณลักษณะด้านความปลอดภัยที่น่าสนใจ แต่จะทำให้การเชื่อมต่อของคุณช้าลงบ้าง อีกทางหนึ่งคือ NordVPN อนุญาตให้คุณกำหนดเส้นทางการรับส่งข้อมูลของคุณผ่านเซิร์ฟเวอร์ของตนก่อนส่งผ่านเครือข่าย Tor
นี่คือรายชื่อประเทศที่ผู้ให้บริการ VPN แต่ละรายมีเซิร์ฟเวอร์: เซิร์ฟเวอร์ ExpressVPN เซิร์ฟเวอร์ NordVPN ผู้ให้บริการ VPN ทั้งคู่มีเซิร์ฟเวอร์ในประเทศไทยเพื่อรับที่อยู่ IP ไทย สิ่งเหล่านี้สามารถช่วยให้คุณใช้บริการในพื้นที่ไปพร้อม ๆ กับการได้รับการปกป้องจาก VPN (หรือเพื่อเข้าถึงบริการธนาคารทางอินเทอร์เน็ตของไทยและบริการที่มีการปิดกั้นเชิงภูมิศาสตร์อื่น ๆ จากต่างประเทศ)
จากผลการทดสอบความเร็วล่าสุดของเรา ทั้ง NordVPN และ ExpressVPN อยู่ในกลุ่มผู้ให้บริการที่เร็วที่สุด 10 อันดับแรก อย่างไรก็ตาม ยังคงมีความแตกต่างระหว่างทั้งสองแบบอย่างมาก โปรโตคอล Lightway รุ่นใหม่ของ ExpressVPN ให้ความเร็วในการดาวน์โหลดเฉลี่ยที่ 329 Mbps NordVPN นั้นเร็วกว่าที่ความเร็วเฉลี่ย 369 Mbps เนื่องจากโปรโตคอล NordLynx รุ่นใหม่ที่เร็วสูง
การเปรียบเทียบด้านความปลอดภัย
ทั้ง ExpressVPN และ NordVPN ให้บริการโปรโตคอล VPN จำนวนมากเพื่อรักษาความปลอดภัยการรับส่งข้อมูลทางอินเทอร์เน็ตของคุณ ExpressVPN อนุญาตการเชื่อมต่อผ่าน OpenVPN, IKEv2 และ L2TP อีกทั้งยังมีโปรโตคอล Lightway ในกรรมสิทธิ์ ซึ่งผสมผสานความเร็วเข้ากับความปลอดภัยได้อย่างลงตัว นอกจากนี้ยังมีน้ำหนักเบากว่า ซึ่งหมายความว่าควรต้องใช้แบตเตอรี่ของอุปกรณ์คุณน้อยลง
เช่นเดียวกันกับ NordVPN ที่มีโปรโตคอลของตัวเองซึ่งชื่อว่า NordLynx และใช้โปรโตคอล WireGuard ซึ่งถือเป็นเทคโนโลยีสำคัญต่อไปในด้านความปลอดภัยทางดิจิทัล NordLynx ตรวจสอบได้ง่ายกว่า OpenVPN และโดดเด่นด้วยความเร็วที่สูงกว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเซิร์ฟเวอร์ที่คุณเลือกอยู่ห่างไกล
ทั้งสองบริษัทต่างใช้การเข้ารหัส AES ด้วยคีย์ 256 บิต ซึ่งมอบความปลอดภัยทางออนไลน์ที่แข็งแกร่งเนื่องจากจะไม่สามารถถอดรหัสได้ ExpressVPN มีข้อได้เปรียบเล็กน้อยในการรักษาความปลอดภัยที่นำเสนอช่องสัญญาณควบคุม รหัสนี้ใช้สำหรับการสร้างเซสชันและเพื่อป้องกันการกระจายคีย์ AES ทั้ง NordVPN และ ExpressVPN ใช้การเข้ารหัส RSA สำหรับช่องนี้ แต่ ExpressVPN ใช้คีย์ที่ยาวกว่า — 4,096 บิต เทียบกับ NordVPN ที่ใช้คีย์ 2,048 บิต
ระดับความปลอดภัยนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งหากคุณอยู่ในประเทศจีน เชื่อกันว่าทางการของจีนสามารถถอดรหัส RSA ด้วยคีย์ 1,024 บิตได้แล้วในตอนนี้ และกำลังทำงานในเวอร์ชันคีย์ 2,048 บิต หากพวกเขาบรรลุความสำเร็จ NordVPN จะไม่ปลอดภัยอย่างสิ้นเชิงในประเทศจีน แต่จะต้องใช้เวลาอีกสักระยะก่อนจะถึงจุดนั้น ExpressVPN ได้ออกแบบการเข้ารหัสช่องสัญญาณควบคุมแบบซับซ้อนเพื่อให้มั่นใจในความปลอดภัยทั้งหมด
ทั้งสองบริษัทต่างผสมเนื้อหาที่เข้ารหัสของกลุ่มข้อมูลเพื่อป้องกันไม่ให้ข้อมูลซ้ำซ้อนสร้างรูปแบบในการส่งที่เข้ารหัส
การเรียก DNS จะไม่ถูกเข้ารหัส ดังนั้นหาก VPN ช่วยให้คอมพิวเตอร์ของคุณดำเนินการใช้บริการ DNS ค่าเริ่มต้นที่เสนอโดยผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (ISP) ของคุณ เช่นนั้นแล้ว เว็บไซต์ทั้งหมดที่คุณเข้าชมอาจถูกบันทึกโดย ISP ของคุณ แฮกเกอร์ หรือนักสืบของภาครัฐที่แอบดักฟังสาย โชคดีที่ทั้ง ExpressVPN และ NordVPN บังคับให้ย้ายการอ้างอิง DNS ทั้งหมดลงอุโมงค์ที่เข้ารหัสไว้ เพื่อป้องกันไม่ให้บุคคลภายนอกเห็นกิจกรรมบนเว็บไซต์ของคุณ
ผู้ให้บริการทั้งสองมีตัวเลือกด้านความปลอดภัยเหมือนกันในแอป ซึ่งช่วยป้องกันการเปิดเผยที่อยู่ IP จริงของคุณ คุณสามารถสั่งให้ทั้งสองแอปเริ่มทำงานเมื่อระบบปฏิบัติการเริ่มทำงาน ซึ่งหมายความว่าคุณสามารถตั้งค่าให้แอปทำงานบนคอมพิวเตอร์ของคุณได้ตลอดเวลา
ทั้งสองแอปพลิเคชันมีตัวเลือก kill-switch ซึ่งจะป้องกันคุณจากการท่องเว็บโดยไม่ได้ตั้งใจโดยที่ VPN ถูกตัดการเชื่อมต่อ NordVPN อนุญาตให้คุณใช้ฟังก์ชัน kill switch ปกติหรือฟังก์ชันที่มีผลกับบางแอปโดยเฉพาะ ExpressVPN ไม่มีตัวเลือกเฉพาะแอปนั้น แต่เสนอการแยกอุโมงค์ (split tunneling) ในแอปทั้งหมด ซึ่งช่วยให้คุณเสนอชื่อแอปเพื่อหลีกเลี่ยง VPN และปกป้องแอปอื่น ๆ ทั้งหมดต่อไป
ความเป็นส่วนตัว
ไม่มีบริษัทใดตั้งอยู่ในประเทศ ‘ไฟว์ อายส์’ (Five Eyes) ดังนั้นทั้งสองจึงปราศจากแรงกดดันจากหน่วยงานรักษาความปลอดภัยในการเปิดเผยรายละเอียดกิจกรรมออนไลน์ของผู้ใช้ หรือร่วมมือกับคำสั่งศาลของสหรัฐอเมริกาหรือสหราชอาณาจักรในการติดตามลูกค้ารายใดรายหนึ่ง
ExpressVPN ตั้งอยู่ในหมู่เกาะบริติชเวอร์จิน ซึ่งไม่มีกฎหมายว่าด้วยการเก็บรักษาข้อมูล ตำแหน่งของ NordVPN ในปานามานั้นไม่ค่อยปลอดภัยเท่าที่ควรในตอนแรก ประเทศนี้มีกฎหมายลิขสิทธิ์ที่เข้มงวด และถูกบังคับเพื่อให้ความร่วมมือกับทางการของสหรัฐฯ อยู่หลายครั้ง อย่างไรก็ตาม NordVPN ไม่มีเซิร์ฟเวอร์ใด ๆ ในประเทศที่จัดตั้งของตน ซึ่งทำให้สามารถหลีกเลี่ยงแรงกดดันจากรัฐบาลในการเปิดเผยข้อมูล
โดย VPN ทั้งหมดระบุว่าไม่มีการเก็บบันทึกข้อมูลใด ๆ อย่างไรก็ตาม เมื่อคุณเจาะลึกลงไปอีกเล็กน้อย เจตนาของพวกเขามักจะหมายถึงว่าพวกเขาไม่ได้เก็บบันทึกกิจกรรมใด ๆ บันทึกกิจกรรมจะบันทึกทุกการดำเนินการของผู้ใช้ ซึ่งรวมถึงเว็บไซต์ที่เข้าชมและการดาวน์โหลดข้อมูล น่าเสียดายที่การติดตามการเชื่อมต่อจากปลายทางกลับไปยังต้นทางจะทำให้หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายและผู้ฟ้องร้องสามารถติดตามคุณไปที่ประตูบ้านของคุณได้ VPN ทำลายห่วงโซ่ของการติดตามนั้น แต่สามารถใช้บันทึกการเชื่อมต่อเพื่อติดตามผู้ใช้ผ่าน VPN ได้
NordVPN ไม่ได้เก็บบันทึกการใช้งาน VPN หรือบันทึกการเชื่อมต่อที่จะระบุสิ่งที่ผู้ใช้ทำในขณะที่เชื่อมต่อ อย่างไรก็ตาม จะรวบรวม ID โฆษณาบนมือถือเพื่อการใช้งานของแอปเอง
ExpressVPN เก็บบันทึกการเชื่อมต่อแบบข้อมูลรวมบางส่วน แต่พยายามหลีกเลี่ยงการจัดเก็บข้อมูลใด ๆ ที่สามารถระบุตัวคุณ โดยบันทึกรวมถึง ID บัญชีของคุณ วันที่ (ไม่ใช่เวลา) ของการเชื่อมต่อ ตำแหน่งที่เชื่อมต่อทั้งขาไปและขากลับ และจำนวนข้อมูลทั้งหมดที่ถ่ายโอน ข้อเท็จจริงที่ว่าบริษัทไม่ได้บันทึกที่อยู่ IP จริงของคุณควรทำให้ไม่สามารถติดตามคุณได้
สิ่งนี้ทำให้เกิดคำถามว่าสามารถเปิดบัญชีโดยไม่เปิดเผยตัวตนได้หรือไม่ หากคุณต้องให้ข้อมูลบัตรเครดิตเพื่อเปิดบัญชี เช่นนั้นแล้วคุณจะถูกติดตามผ่านบัตรเครดิต อัตลักษณ์ของคุณอาจถูกติดตามผ่านบัญชีอีเมลของคุณด้วยเช่นกัน
ทั้ง ExpressVPN และ NordVPN อนุญาตให้คุณชำระเงินด้วยสกุลเงินดิจิทัล ซึ่งหมายความว่าจะไม่มีการติดตามคุณผ่านธนาคารของคุณได้ คุณสามารถเลือกชำระเงินผ่านบัตร Mint ด้วย ExpressVPN ซึ่งเป็นบัตรเติมเงินที่คุณเติมเงินด้วยเงินสดในร้านค้าและไม่กำหนดใช้การระบุตัวตนของคุณ ทั้งสองบริการ คุณต้องมอบที่อยู่อีเมล อย่างไรก็ตาม คุณสามารถใช้ที่อยู่อีเมลแบบสุ่ม (Burner Email) ดังนั้น การสร้างบัญชีแบบไม่เปิดเผยตัวตนและป้องกันไม่ให้ใครเชื่อมโยงกิจกรรมของคุณไปยังอัตลักษณ์ที่แท้จริงของคุณจึงสามารถดำเนินการได้ด้วยผู้ให้บริการทั้งคู่
ระดับความเป็นส่วนตัวที่นำเสนอโดย ExpressVPN และ NordVPN นั้นยอดเยี่ยม ซึ่งเป็นหนึ่งในเหตุผลที่บริการทั้งสองนี้เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ชื่นชอบทอร์เรนต์ ทั้ง ExpressVPN และ NordVPN เปิดรับการสนับสนุนสำหรับผู้ใช้ทอร์เรนต์ ดังนั้นคุณไม่จำเป็นต้องหลบเลี่ยงเกี่ยวกับกิจกรรมของคุณ หากคุณต้องการติดต่อฝ่ายสนับสนุนลูกค้าด้วยคำถามเกี่ยวกับการเพิ่มประสิทธิภาพการตั้งค่าของคุณสำหรับข้อมูลจราจร P2P
การติดตั้ง
VPN สามารถใช้วิธีการต่าง ๆ เพื่อปกปิดที่อยู่ IP ของคุณ ทั้ง ExpressVPN และ NordVPN ใช้วิธีใช้ที่อยู่ร่วมกัน ในสถานการณ์นี้ ข้อมูลจราจรขาออกของคุณทั้งหมดจะถูกติดแถบด้วยที่อยู่ IP ของเซิร์ฟเวอร์ VPN ผู้ใช้รายอื่นทั้งหมดที่เชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ในเวลาเดียวกันนั้นจะเห็นที่อยู่ IP ของเซิร์ฟเวอร์อีกด้วย ใครก็ตามที่พยายามติดตามกิจกรรมจากเว็บไซต์เป้าหมายกลับไปยังต้นทางจะมาถึงเซิร์ฟเวอร์ VPN และจะไม่สามารถบอกได้ว่าลูกค้า VPN รายใดเป็นผู้สร้างคำขอนั้น
ระบบที่อยู่ IP ที่ใช้ร่วมกันได้รับการจัดการโดยระบบที่เรียกว่า “การจับคู่ที่อยู่พอร์ต” (PAT) คุณอาจเคยอ่านเกี่ยวกับการป้องกันที่ VPN บางประเภทเสนอด้วยไฟร์วอลล์ NAT จริง ๆ แล้วนี่คือ PAT ระบบการย้ายที่อยู่ทำให้ไม่สามารถระบุที่อยู่ IP หลังเกตเวย์ได้ และสิ่งนี้จะสร้างไฟร์วอลล์โดยอัตโนมัติ ทั้ง ExpressVPN และ NordVPN ให้การปกป้องไฟร์วอลล์ NAT แก่คุณ
ในบางสถานการณ์ คุณอาจต้องใช้ที่อยู่ IP ส่วนตัวของคุณเอง ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งหากคุณต้องการยอมรับการเชื่อมต่อขาเข้า ในกรณีนี้ ไฟร์วอลล์ NAT จะไม่นำไปใช้กับการเชื่อมต่อของคุณ คุณจะต้องมีที่อยู่ IP ส่วนตัวหรือ ‘คงที่’ หากคุณต้องการตั้งค่าเซิร์ฟเวอร์ของคุณเอง ซึ่งอาจใช้สำหรับเว็บไซต์ เซิร์ฟเวอร์เกม เซิร์ฟเวอร์ Plex หรือเพื่อโฮสต์ระบบจัดเก็บข้อมูลบนคลาวด์ของคุณเอง
คุณไม่สามารถรับที่อยู่ IP แบบคงที่จาก ExpressVPN ได้ อย่างไรก็ตาม NordVPN เสนอบริการในราคาพิเศษที่ $70 (GBP £52.20) ต่อปี คุณสามารถเลือกใช้ที่อยู่ IP จากสหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกา เนเธอร์แลนด์ ฝรั่งเศส หรือเยอรมนีได้ ไม่สำคัญว่าคุณอยู่ที่ไหนหรือจริง ๆ แล้วอยู่ที่ไหน
VPN ทั้งสองนี้มีระดับการป้องกัน DDoS เนื่องจากใครก็ตามที่หวังที่จะเปิดใช้การโจมตี DDoS กับคุณจะต้องมีที่อยู่ IP ของคุณก่อน เมื่อคุณใช้ VPN จะไม่มีใครสามารถตรวจจับที่อยู่ IP ของคุณได้ มีเพียงที่อยู่ IP ของเซิร์ฟเวอร์ VPN ที่คุณเชื่อมต่ออยู่เท่านั้น ด้วยเหตุนี้ ใครก็ตามที่คิดว่ากำลังโจมตีคุณจะโจมตีเซิร์ฟเวอร์ VPN จริง ๆ ทั้ง Express และ Nord มีไฟร์วอลล์ NAT ที่ปฏิเสธคำขอที่ไม่พึงประสงค์ทั้งหมด ดังนั้นจึงปกป้องเซิร์ฟเวอร์ VPN เองจากการโจมตี DDoS
การบริการลูกค้า
ทั้ง ExpressVPN และ NordVPN เป็นผู้นำวงการอุตสาหกรรมด้านการสนับสนุนลูกค้า ทั้งคู่มีสิ่งอำนวยความสะดวกในการแชทสดบนเว็บไซต์ ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญที่มีความรู้ เราพบว่า ExpressVPN สามารถเชื่อมต่อได้เร็วกว่าจากการเข้าสู่ระบบแชททั้งคู่เป็นประจำ ข่าวดีก็คือทั้ง NordVPN และ ExpressVPN มีคุณสมบัติการแปลที่ช่วยให้พนักงานสามารถสื่อสารเป็นภาษาไทยและภาษาอื่น ๆ ได้
เรายังทดสอบการตอบกลับอีเมลสำหรับผู้ให้บริการแต่ละรายอีกด้วย ExpressVPN และ NordVPN ต่างก็ตอบคำถามเกี่ยวกับการสตรีมอย่างง่าย ๆ อย่างรวดเร็วและละเอียดถี่ถ้วน ExpressVPN ลังเลเล็กน้อยเกี่ยวกับคำถามหนึ่งข้อที่ดูเหมือนจะเป็นคำถามตรง ๆ เกี่ยวกับการรั่วไหลของ DNS โดยให้ข้อมูลมากมายเกี่ยวกับหัวข้อโดยไม่ตอบคำถามของเราจริง ๆ อย่างไรก็ตาม มีการตอบคำถามโดยทันทีเมื่อติดตาม ExpressVPN มีเวลาตอบกลับโดยเฉลี่ยที่ดีที่สุด (หนึ่งชั่วโมง 40 นาที เทียบกับ NordVPN สามชั่วโมง 24 นาที) นี่คือผลจากการถามคำถามสามข้อจากแต่ละทีม
ผลจาก ExpressVPN ครั้งแรก:
ต่อไปนี้คือผลของ NordVPN:
ด้านความน่าเชื่อถือของพวกเขา บริการ VPN ทั้งคู่ตอบกลับต่อทุกคำถามตามจริง — ซึ่ง VPN บางแห่งไม่ได้ให้คำตอบใด ๆ แม้ว่าเวลาตอบกลับสำหรับคำถามบางอย่างอาจใช้เวลานาน แต่จริง ๆ แล้วเป็นการตอบกลับที่เร็วที่สุดในอุตสาหกรรม
ผู้ชนะ
NordVPN
ExpressVPN เป็นบริการที่ใช้งานอเนกประสงค์อย่างน่าอัศจรรย์ ซึ่งทำได้ดีกว่าคู่แข่งส่วนใหญ่ในด้านความเร็วและการเข้าถึงไลบรารี Netflix ระดับภูมิภาคหรือบริการ TV ของไทยในต่างประเทศ ทั้งยังเป็นบริการที่มีความน่าเชื่อถือด้านความเป็นส่วนตัวเช่นกัน และเรายังคิดว่าเป็นทางเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้ที่ยินดีที่จะใช้จ่ายเพิ่มอีกเล็ก ๆ น้อย ๆ ในแต่ละเดือน
ซึ่งหมายความว่า เรายังเห็นว่า NordVPN เป็นตัวเลือกที่ดีกว่า มีความเร็วกว่า มีเซิร์ฟเวอร์มากกว่า และให้การควบคุมการตั้งค่าความปลอดภัยของคุณได้มากกว่า ExpressVPN เป็นตัวเลือกบริการที่ดีสำหรับการสตรีมเนื้อหาภาษาไทยหรือต่างประเทศด้วยตัวเลือกการปลดบล็อกที่น่าเชื่อถือและตัวเลือกที่อยู่ IP เฉพาะ
ด้วยการรับประกันการคืนเงินภายใน 30 วัน ทั้งคู่เสนอโอกาสให้คุณได้ลองใช้ ExpressVPN และ NordVPN ด้วยตัวคุณเอง ไม่ว่าคุณจะเลือกบริการ VPN ใดเหล่านี้ คุณจะได้รับการบริการที่ปลอดภัย
เปรียบเทียบ ExpressVPN และ NordVPN: วิธีการของเรา
เนื่องจาก ExpressVPN และ NordVPN เป็น VPN อันดับต้น ๆ ของเรา ทั้งคู่จึงมีข้อเสนอมากมาย อย่างไรก็ตาม เพื่อช่วยให้คุณสามารถตัดสินใจได้ เราจึงต้องเปรียบเทียบและทำให้เห็นความแตกต่างระหว่างสองบริการนี้ในหลาย ๆ ส่วน ด้านล่าง คุณสามารถอ่านเพิ่มเติมเล็กน้อยเกี่ยวกับวิธีการที่เราใช้:
หากคุณต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการทดสอบเฉพาะที่เราเรียกใช้บน VPN เช่น ExpressVPN และ NordVPN ให้ดูที่วิธีการทดสอบ VPN ของเรา ซึ่งมีรายละเอียดเพิ่มเติม
คำถามที่พบบ่อย NordVPN หรือ ExpressVPN
ไม่มีคำตอบที่แน่ชัดว่าแบบไหนดีกว่า ทุกอย่างขึ้นอยู่กับความต้องการของคุณ ตัวอย่างเช่น ExpressVPN เป็นบริการที่เร็วกว่า แต่ NordVPN มีเซิร์ฟเวอร์ให้เลือกมากกว่า ในด้านดี ผู้ให้บริการทั้งสองให้ความสำคัญกับความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของคุณเป็นอันดับแรก ดังนั้นไม่ว่าคุณจะเลือกแบบไหน คุณสามารถเล่นเกมและสตรีมได้อย่างสบายใจ
วิธีนี้มีปัญหาสองสามประการ ประการแรก ไม่มีการนับรวมสำหรับผู้ใช้ Windows, MacOS หรือ Linux ประการที่สอง เป็นไปได้ที่ผู้ใช้บางรายติดตั้งบริการหลายครั้งในทุกอุปกรณ์ของตน อย่างไรก็ตาม NordVPN อนุญาตการเชื่อมต่อพร้อมกันมากกว่า ExpressVPN หนึ่งอุปกรณ์เท่านั้น ดังนั้นสิ่งนี้จึงไม่น่าจะเป็นส่วนให้เกิดจำนวนการติดตั้งที่สูงขึ้นเพียงสิ่งเดียว กล่าวอีกนัยหนึ่ง ดูเหมือนว่า NordVPN จะได้รับความนิยมมากกว่าอย่างน้อยก็ในอุปกรณ์พกพา
ยังลังเลที่จะตัดสินใจใช่หรือไม่? ไม่ต้องกังวล บริการทั้งคู่เสนอการรับประกันการคืนเงินภายใน 30 วัน ซึ่งหมายความว่าคุณสามารถลองใช้บริการได้ด้วยตัวคุณเองก่อนที่จะผูกมัดเพื่อใช้บริการเลือกใช้แบบไหนแบบหนึ่ง
คุณลักษณะเด่นของ NordVPN คือเราเตอร์ Onion ที่ได้รับการปรับเป็นพิเศษบนเซิร์ฟเวอร์ VPN สิ่งเหล่านี้ให้ประโยชน์ของเครือข่าย Tor (แต่ไม่ใช่ประโยชน์อื่น ๆ ของเบราว์เซอร์ Tor เช่น การบล็อกสคริปต์, การบังคับใช้ https, การไม่ใช้คุกกี้, การป้องกันลายนิ้วมือ ฯลฯ) อีกทั้งยังมีการเข้ารหัสข้อมูลจราจรของคุณ โดยการเพิ่มการปกป้องชั้นบนสุดอีกชั้นหนึ่ง
ExpressVPN มอบความเป็นส่วนตัวในระดับใกล้เคียงกัน แม้ว่าจะบันทึกข้อมูลบางอย่างเพื่อการแก้ไขปัญหาและการเพิ่มประสิทธิภาพ ซึ่งรวมถึงวันที่ (แต่ไม่ใช่เวลา) ที่คุณเชื่อมต่อ เซิร์ฟเวอร์ที่คุณใช้ แบนด์วิดธ์ทั้งหมดที่ใช้ในระยะเวลา 24 ชั่วโมง และประเทศที่คุณอยู่เมื่อคุณเชื่อมต่อ ข้อมูลนี้ไม่สามารถระบุถึงตัวคุณโดยตัวเองได้
นอกจากนี้ ผู้ให้บริการทั้งคู่รับบิตคอยน์และใช้เซิร์ฟเวอร์ RAM เท่านั้น ซึ่งเป็นการเสนอวิธีการสมัครใช้งานแบบไม่เปิดเผยตัวตนและเพื่อให้แน่ใจว่าข้อมูลที่บันทึกทั้งหมดถูกลบเมื่อใดก็ตามที่มีการรีบู้ตเซิร์ฟเวอร์ กล่าวโดยย่อก็คือ ไม่ว่าคุณจะเลือกแบบไหนในท้ายที่สุด คุณจะสามารถท่องเว็บได้อย่างปลอดภัยอย่างรู้เท่าทันว่าไม่มีใครจะสามารถเห็นกิจกรรมของคุณทางออนไลน์ได้